หน้าเว็บ

วันพุธที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

BEST SEASONS ทุกฤดูก็สามารถเที่ยวได้



BEST SEASONS ทุกฤดูก็สามารถเที่ยวได้
(เขียนและแปลจาก Mappuru นิตยสารท่องเที่ยวของประเทศญี่ปุ่น โดย ARARESAMA ทั้งหมด)

            คุมาโมโต้เป็นจังหวัดที่น้อยคนนักมักจะมองผ่านหรือข้ามไป ทั้งนี้น่าจะเป็นเพราะว่ามีทรัพยากรธรรมชาติอย่างเดียวเท่านั้นที่เป็นจุดเด่นของจังหวัด อาจเทียบได้กับประเทศลาว นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปยังลาวนั้น ส่วนใหญ่จะไปเที่ยวน้ำตก ภูผา ลำคลองที่ขึ้นอยู่ตามธรรมชาติอย่างเรียบง่าย ไม่ได้หวือหวาเหมือนน้ำตกมโหฬารอย่างไนแองการา หรือคดเคี้ยวจนน่าอัศจรรย์ใจแบบแม่น้ำอเมซอน

            คุมาโมโต้เป็นจังหวัดทางตอนใต้ที่มี 4 ฤดูเหมือนทุกๆจังหวัดในญี่ปุ่น เพียงแต่ว่าภูมิภาคคิวชูนี้ค่อนข้างมีความคล้ายเคียงกับเมืองไทยมากที่สุดแล้ว เนื่องจากไม่มีหิมะเย็นเฉียบให้ได้เห็นกันบ่อยนักเพราะมีภูเขาสูงล้อมรอบอยู่มากมาย มีความเขียวของต้นไม้ใบหญ้าชุ่มฉ่ำ ฝนตกเป็นประจำ แต่เงียบกว่ากรุงเทพราวน้ำกับไฟ

ในหน้าร้อนเป็นฤดูแรกที่ธรรมชาติเริ่มส่งผลผลิตอันสวยงามออกมา โดยเริ่มต้นตั้งแต่เดือนสิงหาคมไปจนถึงเดือนตุลาคม อะโซะ ในอาณาเขตของเมืองโอกุนิ และชายทะเลแถบอามาคุสะ เป็นสิ่งที่ต้องไปให้ได้ ไม่ใช่ความงามของหุบเขาอะโซะซังอย่างเดียว น้ำใสไหลเย็นของอามาคุสะก็เปี่ยมไปด้วยพลัง ชวนให้เคลิบเคลิ้ม (คงพอจะคุ้นหูจากครั้งที่แล้ว อะโซะซัง อย่าเพิ่งทุกข์ร้อน เพราะเราจะนำมาเล่าในครั้งต่อไปเช่นเดียวกับอามาคุสะ)

ถัดจากหน้าร้อนก็เข้าฤดูใบไม้ร่วงในช่วงปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน ระหว่างเมือง ฮิโตะโยชิ (Hitoyoshii) และยาสุอิชิโระ (Yatsuishiro) สีสันของเหล่าใบเมเปิ้ลญี่ปุ่นจะแข่งกันผลิตสีแดง เหลือง และส้ม ออกมาอย่างสว่างไสว งดงามสมกับเป็นเมืองที่อยู่ทางตอนใต้ของจังหวัด ซึ่งเราจะเพลิดเพลินไปพร้อมกับการชมทิวทัศน์นี้จากใต้เท้าของตัวเองโดยที่มีเพียงแค่แผ่นไม้กั้นไว้เท่านั้น! ใช่แล้ว เพราะที่นี่มีสะพานแขวน Gokanoshou การก้มลงไปดูสีสันของใบเมเปิ้ลจากใจกลางส่วนที่ลึกที่สุดของคิวชู ด้วยความสูงจากหุบเขาพันกว่าเมตร เฮือกก แม้สะพานจะค่อนข้างแคบและยาว แถมยังแกว่งไกวชวนใจหวิวทุกครั้งที่เหยียบไปทีละแผ่น แต่ ณ ที่แห่งนี้เองที่คนญี่ปุ่นใช้เป็นสถานที่หลบซ่อนตัวจากการรุกรานในสมัยที่เกียวโตยังเรืองอำนาจ

ฤดูสุดท้าย... ฤดูใบไม้ผลิ เช่นเดียวกับคนญี่ปุ่นที่ตั้งหน้าตั้งตารอการผลิดอกของซากุระในช่วงนี้ หลังจากความหนาวเย็นในฤดูหนาว (ปลายพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์) ที่ได้แช่แข็งพวกเขาเอาไว้อย่างเนิ่นนานแล้วนั้นได้จบสิ้นลง การที่จะได้นั่งจิบชาชมซากุระจากใต้ต้นของซากุระเอง ไม่ใช่แค่ความฝันของคนญี่ปุ่นเท่านั้น นักท่องเที่ยวต่างชาติบางคนถึงกับนั่งเครื่องบินเพื่อมาชมซากุระญี่ปุ่นด้วยตนเอง เพียงเพราะมันเป็นความใฝ่ฝันของตน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น