หน้าเว็บ

วันพุธที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

「Last day to lost you」 (TamaMiya )

Fan fiction TamaMiya
Last day to lost you

 "เอาล่ะ อีกไม่กี่วันพวกเธอก็จะได้เป็นผู้ใหญ่เต็มตัวกันซะทีนะ ขอให้นำวิชาและทุกๆอย่างที่ได้รับจากโรงเรียนแห่งนี้กลับออกไปใช้ชีวิตในโลกใหม่ เป็นคนดีของสังคม ครูภูมิใจในตัวพวกเธอทุกคนนะ"

ท่ามกลางเสียงหัวเราะและโหวกเหวกโวยวายขอฃนักเรียน จู่ๆน้ำตาผมก็ไหลออกมา บ้าจริง ต่อหน้าเจ้าพวกนี้เนี่ยนะ! ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันมา1ปีเต็ม บ่อน้ำตาเลยเริ่มทำงาน

จะว่าไปแล้ว ครูอย่างผมนี่ก็เจ๋งเหมือนกันนะ ปราบไอ้พวกเด็กเพี้ยนเนี่ยได้ หึๆ แถมชื่อยังกระฉ่อนในพวกนักเรียนอีก

ทั้งอย่างนี้ก็เถอะ มันก็ยังมีเด็กบางคนล่ะนะ ที่ยังคงดื้อด้านดื้อดึงอยู่ แต่ตัดสินใจแล้วล่ะ ต่อให้จะยากเย็นแค่ไหนก็ตาม ก่อนพิธีจบฯนี่ล่ะ ผมคนนี้จะทำให้ทุกคนเคารพกฎระเบียบรร เพื่อให้เป็นคนดีของสังคมให้จงได้ คนเดียวที่ผมจะปราบ คนเดียวเท่านั้น 

เจ้าเด็กที่ชื่อว่า ทามาโมริ ยูตะ!

คอยดูเอาไว้เถอะ ครูมิยะตะคนนี้จะทำให้นายอยู่เข้าร่องเข้ารอยให้ได้เลย!!

อีกสามวัน... พวกมอหกจะออกจากโรงเรียนกันไปแล้ว มาเริ่มตอนนี้คงไม่เป็นไรหรอกเนอะ ไม่เป็นไรน่าา ทุกอย่างต้องมีการเริ่มต้นเสมอแหละ ฮ่าๆ

ข้อแรกที่ผมจะปราบ คือ ทำให้เจ้าหนูเข้าเรียนตรงเวลา! ปัญหานี้มีมาตั้งแต่ขึ้นมอหก ไม่มีวันไหนที่เข้าก่อนหรือแม้แต่ทันเวลาเลย ถ้าจนกระทั่งวันสุดท้ายก็ยังเข้าสายเนี่ย ผมคงไม่มีวันให้อภัยตัวเองไปตลอดชีวิตแน่

เพราะฉะนั้นวันนี้จึงวางแผนมาอย่างดี..

กิ๊งก่องๆๆ กิ๊งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

"ขอโทษคร้าบบ มีทามาโมริ ยูตะกำลังนอนอยู่สินะครับบบ"
"..."

รู้นะว่านอนอยู่น่ะ แล้วก็เอาผ้าห่มกับหมอนอีกสองสามอันปิดหูไว้ด้วย

กิ๊งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

"เฮ้! ทามาโมริ! เลิกอุดหู เช็ดน้ำลายที่เลอะหมอนนั่นด้วย แล้วก็ลงมาไปโรงเรียน

... TBC

วันพฤหัสบดีที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

「That's word คำๆนั้น」

Fan fiction NikaSen
(Nikaido Takashi x Senga Kento)

(Senga's part)


ผมมันบ้า!
บ้าเองแหละ!!

แต่คนที่มันทำให้ผมบ้าน่ะ มันโคตรเลวเลย!
ตั้งแต่เกิดมาบนโลกใบนี้ ผมยังไม่เคยคิดจะทำอะไรแบบนี้เลยนะ

(ย้อนไปเมื่อสองวันที่แล้ว)
"เฮ้ย แม่งงจะจบแล้วนะเฟ้ยย"
"เออ แล้วไงวะ จบก็จบดิ"
"มึงไม่เห็นความสำคัญเลยจริงเรอะ?"
"ก็แล้วจะให้กูทำไงวะ สอบตกให้เรียนซ้ำจะได้ไม่ต้องจบน่ะเหรอ"
"จะไม่ได้เจอหน้ามันแล้วนะเฟ้ย"
"เออ กูไม่อยากเจอ เกลียดขี้หน้าแม่ง"

'มัน' ในที่นี้ที่เพื่อนผมมันพูดหมายถึง เขา
จะใครอีกล่ะครับ อย่ามาทำหน้าสงสัยกันดิ
คนที่ตอนเกิดก็เกิดที่โรงบาลเดียวกัน
บรรดาพ่อแม่สนิทกัน
บ้านก็ใกล้กัน
เรียนด้วยกัน
กินด้วยกัน
อาบน้ำ
นอน
...

ไม่เคยมีใครถามว่าผมอยากอยู่กับมันบ้างมั้ยสักคำ! ยัดเยียดตลอดด ทั้งป๊าทั้งม๊าทั้งเพื่อน ไอ้เพื่อนนี่แหละ แม่งตัวดีเลย!

คนที่คอย 'ทำด้วยกัน' มาตลอด17ที่ผ่านมา
ก็คือไอ้บ้า...

พลั่ก!

"ยะโฮ้ว เค็นโตะ~"
"ทักดีๆก็ได้ ไม่เห็นจะต้องตบหลังกันแทบหักเลย ไอ้บ้าพลัง"
"ฮ่าๆๆ อะไรแค่นี้อ่อนเหรอวะ"
"ไปไกลๆตีนกูเลย ชิ่ว"
"เออก็ได้ ไปอยู่กะโฮชิก็ดะ" แล้วมันก็เดินไปเกาะมิยะตะที่นั่งตรงข้ามผม

"โทชิยะเฟ้ยย มาโฮชิอะไรฟระะ ปั๊ดเลยหนิ" มิยะตะโวยวายเสียงดัง

ไอ้บ้าพลังเนี่ยแหละ ...ที่'ด้วยกัน'มาตลอดกับผม นิไคโด ทาคาชิ ทั้งๆที่น้องสาวมันก็ออกจะบอบบางแท้ๆ ไหงพี่โคตรถึกเลยย

ไม่รู้ตัวเองไปชอบไอ้แนวแบบนี้เข้าได้ยังไง(///)
ใช่แล้วล่ะ ที่มิยะพูดทาตั้งแต่ต้นก็คือ มันจะให้ผมไปสารภาพความรู้สึกของตัวเองกับไอ้ถึกนั่นวันเรียนจบ ไม่มีทางซะหรอกก ฝันไปเถอะ ยิ่งกับคนขี้อายแบบผมด้วย เชอะ!

ในขณะที่ร่างบางกำลังหงุดหงิดและบ่นงึมงำอยู่กับตัวเองอย่างอารมณ์เสียอยู่ เขาไมีมีทางจะรู้ได้เลยว่ายังมีสายตาคู่หนึ่งลอบมองมายังที่ๆตัวเองนั่งอยู่

ไม่อะไรยังไง แต่สรุปว่าผมก็โดนยุขึ้นจนได้ มองหน้ามิยะทีไรใจอ่อนยอมมันหมดทุกที ไอ้ยิ้มเฮงซวยนั่น! หงุดหงิดเฟร้ยย

(กลับมาสู่วันต้นเหตุ)
"นักเรียนที่จบออกไปนั้น จะต้องคำนึง..." เสียงอาจารย์ใหญ่ดังก้องผ่านเครื่องขยายเสียง จริงๆแล้วผมควรจะอยู่ที่ห้องประชุมร่วมกับเพื่อนปีเดียวกัน ถ้าไม่ติดว่าเมื่อสักครู่ผมเพิ่งมีปัญหาไป...

เรื่องของเรื่องคือ ก่อนเข้าห้องประชุมนิดหน่อย ผมก็ดั๊นสะเออะจะไปเข้าห้องเรียนเก่าเพื่อระลึกความหลังซะหน่อย จู่ๆก็มีเด็กนักเรียนหญิงคนนึงวิ่งออกมาจากห้องพอดี เธอร้องไห้ไปด้วย

อะไรน่ะ ร้องไห้วันเรียนจบเนี่ยนะ ไม่เป็นมงคลเอาซะเลย ผู้หญิงก็ล่ะนะ อ่อนแอชะมัด

กึก ตอนที่มือผมกำลังผลักประตูเข้าไป ร่างกายก็ชะงัก มีร่างๆหนึ่งนั่งเงียบๆในห้องนั้น ร่างที่คุ้นตามาตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านมา

มันมานั่งอะไรตรงนี้วะ
ขนลุกชะมัด

แต่ไม่ทันที่จะทักอะไรออกไป จู่ๆไอ้บ้านั่นก็พูดขึ้น(กับตัวเองเนี่ยนะ!?)

'จากนี้ไปเธอก็คงจะได้มีรักใหม่ซะทีนะ...' น้ำเสียงเศร้าๆนั่นช่างบีบรัดหัวใจผมเหลือเกิน ไม่รู้ทำไม แต่ฟังแล้วมัน..เจ็บจัง

ผมถอยหลังกลับออกจากห้องโดยอัตโนมัติ ทว่าก็สายเกินไปเสียแล้ว เมื่อบังเอิญไปทำให้อีกฝ่ายีรับรู้การมาของตัวเองซะแล้ว

'โอ๊ะ เค็นโตะ!' เสียงหมอนั่นดูตกใจ แล้วจู่ๆก็หน้าแดงขึ้นมา ราวกับรู้ว่าผมได้ยินสิ่งที่มันพูดตะกี๊นี้

'ลืมของเหรอ?' เสียงแหบแต่พยายามกระแอมกลบเกลื่อน บ่งบอกให้ดูว่าฝ่ายนั้นกำลังกลบเกลื่อนความเขินของตัวเองอยู่

'เปล่า... ไปละ'
'เฮ้ เดี๋ยว สิ!' เขารีบเดินเข้ามาจับมือผมนั้งไว้แน่นหลังจากที่ผมพูดอย่างเย็นชาออกไป
'ปล่อย...'
'เดี๋ยวสิ แปปนึง'
'...'
'เมื่อกี๊ได้ยินรึเปล่า' หน้าเริ่มแดง
'ได้ยินอะไร'

หมอนั่นเกาหัวแล้วยิ้มเก้อๆ อ๋อเข้าใจแล้ว กับยัยนั่นสินะ! ทั้งได้ยินแล้วก็เห็นเลยล่ะ ชัดมะ!

'อือ' ผมงืมงำ รีบพยายามสะบัดข้อมือตัวเองให้หลุดจากมือหนานั่น

'เดี๋ยวก่อน' น้ำเสียงเริ่มเข้มขึ้นตามแบบของนิไคโดเวอชั่นดุ ผมเริ่มกลัว..ซะที่ไหนเล่า!

'อะอะไร?'
'นายคงไม่ได้...คิดอะไรผิดๆไปหรอกนะ' เสียงเขาแสดงถึงความสงสัย

'ผิดอะไร อะไรที่ว่าผิด?'
'ก็...'
'ทุกอย่างออกจะชัดเจน แค่เห็นก็เข้าใจแล้วนี่'
'มันไม่..'
'พอดีเถอะ ขอโทษนะที่เข้ามาขัดจังหวะบทพระเอกน่ะ ก็ไม่คิดว่าแกจะมีคนที่ชอบละ...'

โอ๊ย ผมกัดปากตัวเอง พูดอะไรลงไปฟะไอ้บื้อเซ็นเอ๊ยย!! ไอ้บ้านั่นเงยหน้ามอง จนผมต้องรีบหลบสายตา

'ปะไปละ...'
'เดี๋ยวสิ!' มันจับข้อมือไว้แน่น อ้ากก ไอ้บ้านี่หนิ! ปล่อยกูว้อยย

'นายหมายถึงอะไร? ตั้งใจจะมาพูดอะไรงั้นเหรอ?'

ถ้ามันโง่และซื่อบื้อขนาดนี้ ก็อย่ารู้เลย ใครที่ไหนมันจะไปบอกวะ!! แม่งงงงงงงง

'ปล่อยนะเฟ้ยย เจ็บ!!'

แล้วมันก็ปล่อยจริง -_- ทำเอาผมกระเด็นไปเลย บอกแล้วไอ้หมอนี่มันบ้าพลัง!

'นายตั้งใจจะบอกอะไรฉันงั้นสินะ'
'...'
'อะไรเหรอ?'
'...'
'...'
'...'
'...'

'ว้อยย เลิกจ้องหน้าแบบนั้นซักทีสิวะ!'
'ก็ตอบมาสิ ฉันฟังอยู่'
'...ฉัน'
'...'

ผมเกลียดไอ้หน้าตาใสซื่อที่มันจ้องเหมือนจะเค้นเอาคำตอบให้ได้ไรงี้เลย! ผมกัดริมฝีปากแน่น เอาไงเอากันดีมั้ยวะ ไหนๆก็เจอตัวละ วันสุดท้ายแล้วด้วยนี่ เดี๋ยวก็เข้ามหาลัย ต่างฝ่ายต่างก็แยกย้าย คำพูดหว่านล้อมของมิยะตะวนเวียนอยู่ในหัวผม

'ชอบแกว้อยยยยย' >///<!!!!!!!!!!!!! 

ปังงงงงงงงงง ผมเตะโต๊ะตัวใกล้สุดแล้วหันหลังวิ่งหนีออกไป เอ๊ะ ฉากคุ้นๆนะ รู้สึกเหมือนเด็กคนตะกี๊เลย-_- พระเจ้า นี่ผมเป็นเด็กผู้หญิงที่สาีภาพรักแล้วเขินจัดจนวิ่งหนีออกมางั้นเรอะ!

(เหตุการณ์ปัจจุบัน ที่ระเบียงแปลงเกษตร)

ด้วยแบบนี้แหละ ผมจึงทนเห็นหน้ามันไม่ได้ ปลีกตัวออกมา นึกแล้วอยากเอาหัวจุ่มชักโครกให้มันปั่นชะมัด แม่งงงงง ทำอะไรน่าอายแบบนั้นลงไปได้ไงกันฟระ

"ไอ้บ้าพลังเอ๊ย!!" ผมตะโกนอยู่คนเดียว แล้วถอนพืชผักในแปลงโยนลงคลองข้างหน้าต้นแล้วต้นเล่า

"ไอ้บื๊อสิบชาติ!"

"มีแฟนอยู่แล้ว ไม่คิดจะบอกกันซักคำ!"

..ปล่อยให้รักได้อยู่ตั้งนาน

"แล้วยังจะให้พูดอะไรน่าอายๆแบบนั้นอีก"

เฮงซวยเอ๊ย ผมรู้สึกได้ว่าน่าตัวเองเริ่มร้อนผ่าว เพราะอากาศอ้าว(?) พอดีกับตอนที่..

สวบ มือหนาสวมเข้ากอดจากทางด้านหลัง ผมนิ่งแข็งพักใหญ่ก่อนได้สติหันไปเจอกับใบหน้าที่คุ้นเคยดี เดาได้ไม่ยากว่า ผมดิ้นพล่าน

"ปล่อยนะเฟ้ย! ทำบ้าอะไรวะ!"

เสียงหัวเราะสั้นๆผ่อนออกมา ตามด้วยคำพูดเบาๆที่ข้างหู

"ทำไมอยู่ดีๆถึงหนีออกมาล่ะ"
"คะใครหนีวะ มะไม่ได้หนีเฟ้ยย"

ยิ่งผมเขิน ก็จะยิ่งดิ้นมากขึ้น ยิ่งดิ้นมาก แขนที่โอบรอบเอวก็จะยิ่งรัดแน่นมากขึ้น

"รีบออกมาก่อนงานจบ มันไม่ดีนะ"

ใครสนล่ะวะ

"รีบออกมาก็พลาดอะไรไปเยอะเลยนะ"

กะอีแค่งานจบ ใครมันจะสนฟะ

"นายต้องสนแน่"  ราวกับอ่านใจได้ นิไคโดกอดเอวผมแน่นขึ้น และกระซิบลงไปให้เสียงผ่านใบหูทะลุถึงซอกคอ

"ในเมื่อมันออกมาจากปากของคนที่จริงใจกับนายมากที่สุดในโลก..."

"..."

"คนอย่าง นิไคโด ทาคาชิ"

"..." หัวใจเริ่มทำงานหนักมากขึ้น

และจะยิ่งทำงานโหมกระหน่ำมากกว่านี้ เมื่อได้ยินคำๆนั้นออกจากปากคนอย่างเขา

คำๆนั้นที่คอยวนเวียนในฝันคืนแล้วคืนเล่า

คำว่า ...

(จบ)
...


วันอังคารที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ทั้งหมดของคิสมาย จัดมาเพื่อเธอ (เมียวโจ2012)

แปลจากคอลัมภ์
ทั้งหมดของคิสมาย จัดมาเพื่อเธอ
(เมียวโจ2012)

สัตว์เลี้ยง (วัตจัง)
เมมเบอร์ทุกคนล้วนแต่มีสัตว์เลี้ยงกันทั้งนั้น
คิตะยามะ = ป้อกกี้ (ปาปิยอง) เซนงะ = พู (ทอยพุดเดิ้ล) มิยะตะ = ไร้ชื่อ (เต่า) ฟูจิกายะ = จิงเกอร์เบล (ทีพุดเดิ้ล) ทามาโมริ = เอป&เชป (มินิดัชชุน) และ เทต (กระรอกบิน) นิไคโด = โมโมะ (ลาบราดอร์รีทรีพเวอร์) , มารุ (มัลทีซ) , เชอร์โรส (ปั้ก) มิกัง(ส้ม = นกแก้ว)

วัตจัง ทอล์กเกี่ยวกับสัตว์ของตัวเอง
ผมเลี้ยงสุนัขพันธุ์ผสม (มินิดัชชุนกับมัลทีซ) ส่วนชื่อจอเก็บเป็นความลับ เจ้าตัวนี้ดื้อใช้ได้เลย มันชอบวิ่งไปๆมาๆ ถ้าเหนื่อยก็จะขึ้นมาพักบนตัวผมเนี่ยแหละ แต่ถ้าผมไม่อยู่ล่ะก็เรื่องใหญ่เลยล่ะ มันจะเหงามาก จะเที่ยวฉีกหนังสือพิมพ์เล่น และก็อึฉี่เรี่ยราด พอตอนกลับถึงบ้าน ก็ต้องทำความสะอาดกันก่อนเลย ถ้าเป็นเรื่องรักหมาล่ะก็ ผมแน่ใจว่าไม่แพ้ใครในคิสมาย แต่ช่วงนี้รู้สึกตัวเองเริ่มชอบหมาจิ้งจอกล่ะครับ จะเข้ากันได้ดีกับจิ้งจอกมั้ยนะ~?

เมียวโจ2012

วันอาทิตย์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

「The little match boy : เด็กหนุ่มขายไม้ขีดไฟ」part1

Fan fiction tamamiya
(Tamamori yuta x Miyata toshiya)

ท่ามกลางคืนวันและเวลาที่เหน็บหนาวของหิมะในโตเกียว เป็นเวลาเที่ยงคืนเศษ บนท้องถนนและตามร้านค้าที่เคยคลาคล่ำไปด้วยเหล่ายานพาหนะและผู้คน บัดนี้ได้พากันกลับเข้าที่พำนักพักผ่อน หากย่ำเท้าออกจากบ้านไปตามทางเดินในเวลานี้ นอกจากทางเดินยาวปูด้วยพรมสีขาว ปรากฏร่างๆหนึ่งซุกกายอยู่ในผ้านวมผืนใหญ่ข้างๆโรงอบขนมปัง ที่ข้างๆกายนั้นมีตะกร้าใบใหญ่ มองเผินๆจะเห็นเหมือนเศษไม้เล็กๆนับไม่ถ้วนอยู่ในนั้น ใบหนัาสวยขาวจัดแข่งกับหิมะเอ่ยพร้อมกับไอหนาวที่ออกมาด้วย ริวฝีปากขาวซีดสั่น

"ไม้ขีดไฟครับ ไม้ขีดไฟมั้ยครับ?" เขาได้แต่พูดประโยคนี้ซ้ำไปซ้ำมาตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้น จนบัดนี้มันลาลับเข้าขอบฟ้าไปแล้ว ทว่าวันนี้ดูท่าจะไร้โชคสำหรับเขา จำนวนไม้ขีดไฟยังไม่พร่องลงไปเลย ความหนาวเหน็บใจแทบสิ้น ทำท้องแสบไปทุกส่วนด้วยความหิวกระหายในรสชาติของขนมปังอบใหม่ๆ เขาชะโงกหน้าไปตรงหน้าต่างของโรงอบขนมปัง แล้วก็รีบเบือนหน้าหนี ในนั้นทั้งอบอุ่นและขนมปังก็น่าอร่อยเสียเหลือเกิน เขากลับมานั่งพิงกำแพงแผ่นหลังหันตรงข้ามกับโรงอบขนมปัง

"ถ้ามีขนมปังอุ่นในมือนี่ก็ดีเหมือนกันนะ..."
ทันใดนั้นก็มีบางอย่างแล่นเข้ามาในหัวของเขา มือบางซีดค่อยๆหยิบไม้ขีดไฟในตะกร้าขึ้นมา แล้วมันก็ถูกจุด ชายหนุ่มมองเห็นขนมปังในเปลวไฟนั้น เขาสาบานว่าตัวเองได้กลิ่นความหอมของแป้ง กลิ่นเนยที่เพิ่งอบเสร็จใหม่ๆในขนมนั่น และเขาก็ลงมือบิกิน

"กินนี่สิ.." จู่ๆก็มีขนมปังก้อนใหญ่ยื่นลงมาเหนือศีรษะ ชายหนุ่มรีบเงยหน้าขึ้นมอง สายตาของเขาไปต้องกับรอยยิ้มกว้าง เขาไม่สามารถเห็นอะไรบนใบหน้าของอีกฝ่ายได้นอกจากยิ้มใหญ่ๆนั่น

...

"ขอบ.. ขอบคุณ" เขาเอ่ยปากขณะที่ตัวเองกำลังฝืนกับลมหนาวที่กระทบตัวครั้งแล้วครั้งเล่า ทันใดนั้นเองที่เขารู้สึกว่าตัวเองอุ่นขึ้น มีอ้อมกอดใหญ่ๆเข้ามาประคองร่างไว้ก่อนจะสิ้นสติลงในอ้อมแขนนั้น หากตาย ก็ขอให้ตายในที่อุ่นๆแบบนี้ก็ยังดี!

เมื่อเห็นอีกฝ่ายหลับไปในอ้อมแขนตน รอยยิ้มอ่อนโยนผุดขึ้นบนใบหน้าเล็กน้อย เขาค่อยๆช้อนตัวร่างบางขึ้นให้กระชับกับแผ่นอก นอนไปเถอะ นายทรมานมาหลายวันแล้ว เขาคิด หลังจากที่ตัวเองคอยเฝ้าติดตามร่างบางมาหลายวันเช่นกัน

"อือออ"

อืมม แจ้บๆ หะหิวน้ำ.. ทำไมคอถึงได้แห้งแบบนี้นะ ทามาโมริค่อยๆลืมตาขึ้น นี่มันอะไรกัน โลกหมุนเร็วขึ้นสามเท่ารึไงนะ เขาลุกขึ้นเดินสะลึมสะลือลงไปยังครัวข้างล่าง

"เอ๊ะ" เขาอุทานอย่างฉงน

ทำไมไม่มีบันได? 
ทำไมห้องครัวอยู่ข้างห้องนอนวะ?

ชายหนุ่มหันขวับกลับไปยังห้องนอนตัวเอง ก่อนผงะถอยออกห่างราวกับพบเจอสิ่งประหลาดเข้า

นี่ไม่ใช่ห้องตูนี่หว่า!

ระหว่างที่กำลังสับสนอยู่นั้นเอง ร่างอีกร่างก็เดินถือถาดออกมาจากห้องครัว บนถาดมีถ้วยใบหนึ่งส่งกลิ่นหอมๆชวนหิวมาด้วย

"โอ๊ะ ตื่นแล้วเหรอๆ พอดีเลย ฉันเพิ่งทำโจ๊กไข่หมูสับเสร็จ หิวสินะมากินสิ"

"ไม่..." ชายหนุ่มมองหน้สพ่อครัว ทว่าก่อนที่จะได้ปฏิเสธ ท้องเจ้ากรรมก็ทำการชักโครกตัวเองขึ้น พ่อครัวหนุ่มมองหน้าพลางหัวเราะอย่างอารมณ์ดีและเอ่ยปากเชื้อเชิญ

"มากินสิ ท่าทางไม่ได้กินอะไรมาหลายวันแล้วสินะ"
"..."
"นั่งลงๆสิ ยืนมันเมื่อยนา^^" พูดเสร็จก็จับไหล่คนตรงหน้ากดให้นั่งลง ผู้เพิ่งได้ขัดขืนอยู่แต่ก็ยอมนั่งลงตามในที่สุด และเริ่มลงมือกินข้าว

...